สาระสำคัญ
ระบบปฏิบัติเป็นซอฟต์แวร์ตัวแรกที่ต้องติดตั้งลงในฮาร์ดดิสก์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดต่อกับเครื่องและลงโปรแกรมใช้งานอื่นๆ ได้ หลังจากนั้นจะเป็นการลงซอฟต์แวร์ที่เป็นการเชื่อมต่อ ระหว่างฮาร์ดแวร์ของเครื่องกับระบบปฏิบัติการซึ่งเรียกว่าไดร์ฟเวอร์ เพื่อให้ระบบปฏิบัติการรู้จักกับฮาร์ดแวร์และสามารถสั่งงานฮาร์ดแวร์นั้นได้
เรื่องที่จะศึกษา
- ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ
- การติดตั้งระบบปฏิบัติการวินโดวส์ XP
- ขั้นตอนการติดตั้งวินโดวส์ XP
- การปรับแต่งวินโดวส์ XP ภายหลังการติดตั้ง
- การติดตั้งดีไวซ์ไดรเวอร์
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. บอกความสำคัญของระบบปฏิบัติการและชื่อของระบบปฏิบัติการต่างๆได้
2. บอกลักษณะการติดตั้งระบบปฏิบัติการวินโดวส์ XP ได้
3. สามารถติดตั้งวินโดวส์ XP ได้
4. สามารถปรับแต่งวินโดวส์ XP ภายหลังการติดตั้ง ได้
5. สามารถติดตั้งไดรเวอร์ของฮาร์ดแวร์ภายในเครื่องได้
ซอฟต์แวร์ระบบปฎิบัติการ
ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
ระบบปฏิบัติการเป็นโปรแกรม (Software) ที่ทําหน้าที่ ควบคุมการทํางานของ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่ต่อพ่วงกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งระบบปฏิบัติการจะทําหน้าที่เป็นตัวกลางในการติดต่อกับฮาร์ดแวร์ของเครื่องโดยตรงและโปรแกรมการใช์งานต่าง ๆ
ความหมายของระบบปฏิบัติการ
โปรแกรมระบบปฏิบัติการ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า OS (Operating System) เป็นโปรแกรม ควบคุมการทํางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ทําหน้าที่ควบคุมการทำงานต่าง ๆ เช่น การแสดงผล ข้อมูลการติดต่อกับผู้ใช้ โดยทําหน้าที่เป็นสื่อกลาง ระหว่างผู้ใช้กับเครื่องให้สามารถสื่อสารกันได้
1. ระบบปฏิบัติการ DOS (Disk Operating System) ระบบ DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท IBM เพื่อให้เป็ระบบปฏิบัติการ สําหรับเครื่องพีซี ซึ่งตัวโปรแกรม DOS จะถูก Load หรืออ่านจากแผ่นดิสก์เข้าไปเก็บไว้ในหน่วย ความจําก่อน จากนั้น DOS จะไปทําหน้าที่เป็น ผู้ประสานงานต่าง ๆ ระหว่างผู้ใช้กับอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ทั้งหลายโดยอัตโนมัติ โดยที่ DOS จะรับคําสั่งจากผู้ใช้หรือโปรแกรมแล้ว นํ าไป ปฏิบัติตาม โดยการทํางานจะเป็นแบบ Text mode สั่งงานโดยการกดคําสั่งเข้าไปที่ซีพร็อม (C:\>) ดังนั้น ผู้ใช้ระบบนี้จึงต้องจําคําสั่งต่าง ๆ ในการใช้งานจึงจะสามารถใช้งานได้ ระบบปฏิบัติการ DOS ถือได้ว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่เก่าแก่. และปัจจุบันนี้มีการใช้งานน้อยมาก
2 .ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows Windows เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดยบริษัท Microsoft ซึ่งจะมีส่วนติดต่อกับ ผู้ใช้ (User interface) เป็นแบบกราฟิก หรือเป็นระบบที่ใช้รูปภาพแทนคําสั่ง เรียกว่า GUI (Graphic User Interface) โดยสามารถสั่งให้เครื่องทํางานได้โดยใช้เมาส์คลิกที่สัญลักษณ์หรือคลิกที่คําสั่งที่ต้องการ ระบบนี้อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใช้งานโปรแกรมได้มากกว่า 1 โปรแกรมในขณะเดียวกันซึ่งถ้าเป็นระบบ DOS หากต้องการเปลี่ยนไปทํางานโปรแกรมอื่น ๆ จะต้องออกจาก โปรแกรงเดิมก่อนจึงจะสามารถไปใช้งานโปรแกรมอื่น ๆ ได้ ในลักษณะการทํางานของ Windows จะมีส่วนที่เรียกว่า “หน้าต่าง” โดยแต่ละโปรแกรมจะถือเป็นหน้าต่างหนึ่งหน้าต่าง ผู้ใช้สามารถ สลับไปมาระหว่างแต่ละหน้าต่างได้ นอกจากนี้ระบบ Windows ยังให้โปรแกรมต่าง ๆ สามารถ แชร์ ข้อมูลระหว่างกันได้ผ่านทางคลิปบอ์.ด (Clipboard) ระบบ Windows ทําให้ผู้ใช้ ทั่ว ๆไปสามารถทําความเข้าใจ เรียนรู้และใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้น
3. ระบบปฏิบัติการ Unix เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้บนเครื่อง SUN ของบริษัท SUN Microsystems แต่ไม่ได้เป็นคู่แข่งกับบริษัท Microsoft ในเรื่องของระบบปฏิบัติการบนเครื่อง PC แต๋อย่างใด แต่Unix เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช็เทคโนโลยีแบบเปิด (Open system) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ผู้ใช้ไม่ต้อง ผูกติดกับ ระบบใดระบบหนึ่งหรืออุปกรณ์ยี่ห้อเดียวกัน นอกจากนี้ Unix ยังถูกออกแบบมาเพื่อ ตอบสนองการใช้งานในลักษณะให้มีผู้ใช้ได้หลายคนในเวลาเดียวกัน เรียกว่า ระบบหลายผู้ใช้ (Multiuser system) และสามารถทํางานได้หลาย ๆ งานในเวลาเดียวกัน ในลักษณะที่เรียกว่า ระบบหลายภารกิจ (Multitasking system)
4. ระบบปฏิบัติการ Linux เป็นระบบปฏิบัติการเช่นเดียวกับ DOS, Windows หรือ Unix โดยLinuxนั้นจัด ว่าเป็นระบบปฏิบัติการ Unix ประเภทหนึ่ง การที่Linuxเป็นที่กล่าวขานกันมากในช่วงปี 1999 – 2000 เนื่องจากความสามารถของตัวระบบปฏิบัติ การและโปรแกรมประยุกต์ที่ ทํ างานบนระบบ Linux โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรแกรมในตระกูลของ GNU (GNU’s Not UNIX) และสิ่งที่สําคัญที่สุดก็ คือ ระบบ Linux เป็นระบบปฏิบัติการประเภทฟรีแวร์ (Free ware) คือไม่เสียค่าใช้จ่ายในการซื้อ โปรแกรม Linux นั้นมี นักพัฒนาโปรแกรมจากทั่วโลกช่วยกันแก้ไข ทําให้การขยายตัวของ Linux เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยในส่วนของใจกลางระบบปฏิบัติการ หรือ Kernel นั้นจะมีการพัฒนาเป็น รุ่นที่ 2.2 (Linux Kernel 2.2) ซึ่งได้เพิ่มขีดความสามารถและสนับสนุนการทํางานแบบหลายซีพียู
การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์ยุคใหม่จะมีซีพียู ดีไวช์คอนโทรลเลอร์ (Device controller) ซึ่งเชื่อมโยงกันผ่านคอมมอนบัส (Common bus) ซึ่งแชร์เมโมรีกัน
หน้าที่โดยทั่วไปของสัญญาณขัดจังหวะ
• สัญญาณขัดจังหวะจะส่งการควบคุมไปยัง Interrupt service routine ผ่านทางตารางสัญญาณขัดจังหวะ
• สถาปัตยกรรมของสัญญาณขัดจังหวะ จะต้องบันทึกตำแหน่งของชุคำสั่งที่ถูกขัดจังหวะไว้
• สัญญาณขัดจังหวะที่เข้าสู่ระบบจะถูก Disable ถ้ามีการทำงานของสัญญาณขัดจังหวะตัวอื่นอยู่ก่อนแล้ว เพื่อป้องกันการสูญหายของสัญญาณขัดจังหวะ
โครงสร้างของ DMA (Direct Memory Access Structure)
• ใช้ สำหรับอุปกรณ์รับส่งข้อมูลที่มีความเร็วสูง เช่น เทป จานเม่เหล็ก หรือข่ายงานสื่อสาร อาจมีความเร็วในการส่งข้อมูลได้ใกล้เคียงกับความเร็วของหน่วยความจำ
• มีการใช้ Direct Memory Access มา แก้ไขปัญหา สำหรับอุปกรณ์ที่มีควาเร็วสูงเหล่านี้ ตัวควบคุมอุปกรณ์จะส่งข้อมูลจากบัฟเฟอร์ของตนมายังหน่วยความจำหลักโดยตรงที ละชุด โดยไม่ได้อาศัยหน่วยประมวลผลกลางเลย
• การทำงานก็เหมือนเดิม คือ เมื่อโปรแกรมของผู้ใช้ต้องการรับส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์เหล่านี้ ระบบก็จะจัดบัฟเฟอร์
โครงสร้างของหน่วยเก็บข้อมูล (Storage Structures)
หน่วยความจำหลักหรือเมนโมรีอย่างถาวร แต่ทำไม่ได้ด้วยเหตุผล 2 ประการ
1. หน่วยความจำหลักเล็กเกินไปที่จะเก็บโปรแกรมและข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดอย่างถาวร
2. หน่วยความจำหลักเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลแบบชั่วคราว เพราะเมื่อเครื่องปิดข้อมูลก็หาย
การติดตั้งระบบปฏิบัติการ windows xp
การติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows XP โดยปกติ จะสามารถทำได้ 2 แบบคือ การติดตั้งโดยการอัพเกรดจาก Windows ตัวเดิม หรือทำการติดตั้งใหม่เลยทั้งหมด สำหรับตัวอย่างในที่นี้ จะขอแนะนำวิธีการ ขั้นตอนการติดตั้ง Windows XP แบบลงใหม่ทั้งหมด ซึ่งความเห็นส่วนตัว น่าจะมีปัญหาในการใช้งานน้อยกว่าแบบอัพเกรดครับ
วิธีการติดตั้ง Windows XP ยังสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 แบบดังนี้
1. ติดตั้งแบบอัพเกรดจาก Windows ตัวเดิม โดยใส่แผ่น CD และเลือกติดตั้งจาก CD นั้นได้เลย
2. ติดตั้งโดยการบูตเครื่องใหม่จาก CD ของ Windows XP Setup และทำการติดตั้ง
3. ติดตั้งจากฮาร์ดดิสก์ โดยทำการ copy ไฟล์ทั้งหมดจาก CD ไปเก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์ ก่อนทำการติดตั้ง
1. ติดตั้งแบบอัพเกรดจาก Windows ตัวเดิม โดยใส่แผ่น CD และเลือกติดตั้งจาก CD นั้นได้เลย
2. ติดตั้งโดยการบูตเครื่องใหม่จาก CD ของ Windows XP Setup และทำการติดตั้ง
3. ติดตั้งจากฮาร์ดดิสก์ โดยทำการ copy ไฟล์ทั้งหมดจาก CD ไปเก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์ ก่อนทำการติดตั้ง
เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ ในขั้นตอนการติดตั้งระบบ Windows XP ตรงนี้ จะขอแสดงตัวอย่างการติดตั้ง โดยการบูตจากแผ่น CD ของ Windows XP Setup โดยก่อนที่จะทำการติดตั้ง ก็ให้ทำการสำรองข้อมูลต่าง ๆ ไว้ให้เรียบร้อย จัดการแบ่ง พาร์ติชั่น (ถ้าจำเป็น) และทำการ format ฮาร์ดดิสก์ให้เรียบร้อยก่อน นอกจากนี้ ไม่ควรลืมการ เตรียม Driver ของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เป็นของ Windows XP ไว้ด้วย
ในการแบ่งพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ แนะนำให้ทำการวางแผนประมาณขนาดพื้นที่ไว้ล่วงหน้าด้วย โดยทั่วไปก็ไม่ควรจะใช้พื้นที่ต่ำกว่า 3G. และเนื่องจากระบบ Windows XP สามารถที่จะสร้างเมนู Multi Bootได้หลังจากที่ติดตั้งไปแล้ว โดยยังสามารถเลือกเมนูว่า จะเรียก Windows ตัวเดิมหรือจะเรียก Windows XP ก็ได้ ดังนั้น หลาย ๆ ท่านมักจะแบ่งพื้นที่ไว้ลง Windows 98 ที่ Drive C: ประมาณ 5G. และเผื่อไว้สำหรับ Windows XP ที่ Drive D: อีกประมาณ 5G. ที่เหลือก็จะเป็น Drive E: สำหรับเก็บข้อมูลอื่น ๆ ทั่วไป แต่ถ้าหากลง Windows เพียงแค่ตัวเดียว ก็ไม่จำเป็นครับ
การตั้งค่าใน BIOS ก่อนทำการติดตั้ง Windows XP ใหม่จะต้องทำการ Disable Virus Protection ในBIOS ซะก่อน เพราะว่าเมนบอร์ดบางรุ่นจะมีการป้องกัน Virus โดยการป้องกันการเขียนทับในส่วนของ Boot Area ของฮาร์ดดิสก์ ซึ่งเท่าที่เคยเห็นมา เครื่องคอมพิวเตอร์ปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่จะมีให้เลือกตั้งค่านี้อยู่แล้ว ถ้าหากเครื่องของใครไม่มีก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเมนบอร์ด บางรุ่นอาจจะไม่มีก็ได้ วิธีการก็คือ
- เริ่มจากการเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ ขณะที่เครื่องกำลังทำ Memory Test หรือนับ RAM อยู่นั่นแหละ ด้านล่างซ้ายมือจะมีคำว่า Press DEL to enter SETUP ให้กดปุ่ม DEL บนKeyboard เพื่อเข้าสู่เมนูของ Bios Setup (แล้วแต่เมนบอร์ด ด้วยบางทีอาจจะใช้ปุ่มอื่น ๆ สำหรับการเข้า Bios Setup ก็ได้ลองดูให้ดี ๆ) จากนี้ก็แล้วแต่ว่าเครื่องของใคร จะขึ้นเมนูอย่างไร คงจะไม่เหมือนกันแต่ก็ไม่แตกต่างกันมากนัก จากนั้นให้มองหาเมนู Bios Features Setup ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูที่สอง ใช้ปุ่มลูกศรเลื่อนแถบลงมาแล้วกด ENTER ถ้าใช่จะมีเมนูของ Virus Warning หรือ Virus Protection อะไรทำนองนี้ ถ้าหากเป็น Enable อยู่ละก็ให้เปลี่ยนเป็น Disable โดยเลื่อนแถบแสงไปที่เมนูที่เราต้องการใช้ปุ่ม PageUpหรือ PageDownสำหรับเปลี่ยนค่าให้เป็น Disable
- กดปุ่ม ESC เพื่อกลับไปเมนูหลักของ Bios Setup มองหาเมนูของ SAVE TO CMOS AND EXIT หรืออะไรทำนองนี้เลื่อนแถบแสงไปเลยแล้วกด ENTER ถ้าหากเครื่องถามว่าจะ Saveหรือไม่ก็ตอบ Y ได้เลย หลังจากนี้เครื่องจะทำการ Reboot ใหม่อีกครั้ง ใส่แผ่น Startup Disk ที่เราทำไว้ตามขั้นตอนแรกรอไว้ก่อนเลย
มาดูขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้น การติดตั้ง Windows XP กันเลยครับ
เริ่มต้น โดยการเซ็ตให้บูตเครื่องจาก CD-Rom Drive ก่อน โดยการเข้าไปปรับตั้งค่าใน bios ของเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยเลือกลำดับการบูต ให้เลือก CD-Rom Drive เป็นตัวแรกครับ (ถ้าหากเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ก็ไม่ต้องเปลี่ยนอะไร)

ทำการปรับเครื่อง เพื่อให้บูตจากCD-Romก่อน จากนั้นก็บูตเครื่องจากแผ่นซีดี Windows XP Setup โดยเมื่อบูตเครื่องมา จะมีข้อความให้กดปุ่มอะไรก็ได้ เพื่อบูตจากซีดีครับ ก็เคาะ Enter ไปทีนึงก่อน

โปรแกรมจะทำการตรวจสอบและเช็คข้อมูลอยู่พักนึง รอจนขึ้นหน้าจอถัดไปครับ

เข้ามาสู่หน้า Welcome to Setup กดปุ่ม Enter เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

หน้าของ Licensing Agreement กดปุ่ม F8 เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

ทำการเลือก Drive ของฮาร์ดดิสก์ที่จะลง Windows XP แล้วกดปุ่ม Enter เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

เลือกชนิดของระบบ FAT ที่จะใช้งานกับ Windows XP หากต้องการใช้ระบบ NTFS ก็เลือกที่ข้อบน แต่ถ้าจะใช้เป็น FAT32 หรือของเดิม ก็เลือกข้อสุดท้ายได้เลย (no changes) ถ้าไม่อยากวุ่นวาย แนะนำให้เลือก FAT32 นะครับ แล้วกดปุ่ม Enter เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

โปรแกรมจะเริ่มต้นขั้นตอนการติดตั้ง รอสักครู่ครับ

หลังจากนั้น โปรแกรมจะทำการ Restart เครื่องใหม่อีกครั้ง (ให้ใส่แผ่นซีดีไว้ในเครื่องแบบนั้น แต่ไม่ต้องกดปุ่มใด ๆ เมื่อบูตเครื่องใหม่ ปล่อยให้โปรแกรมทำงานไปเองได้เลยครับ)

หลังจากบูตเครื่องมาคราวนี้ จะเริ่มเห็นหน้าตาของ Windows XP แล้วครับ รอสักครู่

โปรแกรมจะเริ่มต้นขั้นตอนการติดตั้งต่าง ๆ ก็รอไปเรื่อย ๆ ครับ

จะมีเมนูของการให้เลือก Regional and Language ให้กดปุ่ม Next ไปเลยครับ ยังไม่ต้องตั้งค่าอะไรในช่วงนี้

ใส่ชื่อและบริษัทของผู้ใช้งาน ใส่เป็นอะไรก็ได้ แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

ทำการใส่ Product Key (จะมีในด้านหลังของแผ่นซีดี) แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

หน้าจอให้ใส่ Password ของ Admin ให้ปล่อยว่าง ๆ ไว้แบบนี้แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

เลือก Time Zone ให้เป็นของไทย (GMT+07:00) Bangkok, Hanoi, Jakarta แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

รอครับ รอ รอ รอสักพัก จนกระทั่งขั้นตอนต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย ก็พร้อมแล้วสำหรับการเข้าสู่ระบบปฏิบัติการ Windows XP ครับ จากนั้น จะมีการบูตเครื่องใหม่อีกครั้ง เพื่อเริ่มต้นการใช้งานจริง ๆ

บูตเครื่องใหม่คราวนี้ อาจจะมีเมนูแปลก ๆ แบบนี้ เป็นการเลือกว่า เราจะบูตจากระบบWindows ตัวเก่าหรือจาก Windows XP ครับ ก็เลือกที่ Microsoft Windows XP Professional ครับ ถ้าของใครไม่มีเมนูนี้ก็ไม่เป็นไรนะครับ

เริ่มต้นบูตเครื่อง เข้าสู่ระบบปฏิบัติการ Windows XP แล้วครับ

ในครั้งแรก อาจจะมีการถามเรื่องของขนาดหน้าจอที่ใช้งาน กด OK เพื่อให้ระบบตั้งขนาดหน้าจอให้เราได้เลยครับ นอกจากนี้ ถ้าหากเครื่องไหนมีการถาม การติดตั้งค่าต่าง ๆ ก็กดเลือกที่ Next หรือ Laterไปก่อน บางครั้งอาจจะมีให้เราทำการสร้าง Username อย่างน้อย 1 ฃื่อก่อนเข้าใช้งาน ก็ใส่ชื่อของคุณเข้าไปได้เลย

เสร็จแล้วครับ หน้าตาของการเข้า Windows XP สวยดีครับ

และนี่คือหน้าตาแรก ของระบบปฏิบัติการ Windows XP Professional ครับ ต่อไปก็เป็นการปรับแต่ง และการลง Driver ของอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เรียบร้อยต่อไป
การลงไดรเวอร์
การติดตั้ง Driver ให้กับอุปกรณ์ตาง ๆ ซึ่งหากเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีอยู่เป็นแบบรุ่นเก่า ๆ อาจจะไม่ต้องทำอะไรเลยเพราะว่า Windows จะจัดการกับ Driver ต่าง ๆ ให้เรียบร้อยแล้ว หรือที่เรียกกันว่า Plug and Play นั่นแหละ แต่ถ้าหากอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้งานเป็นรุ่นใหม่ ก็ต้องมามำการติดตั้ง Driver ของอุปกรณ์ต่าง ๆ เองเพื่อให้สามารถใช้งานอุปกรณ์เหล่านั้นได้สมบูรณ์

Driver ของการ์ดจอ
โดยปกติแล้วหากการ์ดจอเป็นรุ่นใหม่ ๆ และ Windows ไม่รู้จัก จะสามารถแสดงผลได้แค่ระดับต่ำสุดคือ 16 สีที่ 640x480จุด สำหรับตัวอย่างนี้ จะเป็นการ์ดจอ Creative Graphic riva TNT 16M (PCI) ซึ่งต้องลง Driver ของการ์ดจอเอง เริ่มต้นจากหน้าแรกที่ Desktop ของ Windows กดปุ่มเมาส์คลิกขวา เลือกเมนู Properties เพื่อเข้าสู่หน้าของ Display Propertiesจะขึ้นเมนูในส่วนของ Display Properties

กดเลือกที่ป้าย Setting ที่ช่อง Display จะเห็นว่าการ์ดแสดงผลจะเป็น Standard PCI Graphic Adapter (VGA) คือเป็นแบบมาตราฐานทั่วไป กรณีเช่นนี้ต้องทำการลง Driver ของการ์ดแสดงผลใหม่ก่อน กดเลือกที่ปุ่ม Advanced

เลือกที่ป้าย Adapter กดที่ Change เพื่อเปลี่ยน Driver ของการ์ดจอใหม่

กด Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

เลือกที่ Search for a better driver . . . กด Next

สำหรับช่องนี้จะให้ใส่ว่า Driver ที่เราต้องการลงเก็บไว้ที่ไหน ผมเลือกแต่เฉพาะ Specify a location เพื่อระบุ Folder ที่เก็บDriver เอง กดที่ Browse เพื่อเลือก Folder

ถ้าหากมีการแสดงแบบนี้ขั้นมาเพราะว่า Windows จะทำการ Browse หรือหา Driver จาก Drive A: ก่อน ก็กด Cancel ไปเลย

เลือก Folder ที่เก็บ Driver ของการ์ดจอและกด OK

จะกลับมาหน้าแรก กด Next เพื่อติดตั้ง Driver ต่อไป

กด Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

รอจนเครื่องทำการติดตั้ง Driver เสร็จ กด Finish หลังจากนี้ เครื่องจะต้องทำการ Restart ใหม่ก่อน กด Yes เพื่อบูทเครื่องใหม่ หลังจากที่บูทเครื่องใหม่แล้วเราก็จะสามารถใช้งานการ์ดจอได้เต็มความสามารถ หรือจะทำการเปลี่ยนแปลงตั้งค่าของการแสดงผลใหม่โดยกด เมาส์ขวา ที่ Desktop และเลือก Properties เพื่อเข้าหน้าจอ Display Properties เลือกที่ป้ายSetting

หน้าจออาจจะไม่เหมือนกันนะครับ เอาเป็นว่าตั้งค่าของ colors ให้เป็น High color (16 bit) หรือขนาดอื่น ๆ ที่สามารถใช้งานได้สูงสุด ส่วนที่ช่อง Screen area ก็เลือกที่ 800 by 600 pixels กด Apply (อาจจะตั้งค่าจอเป็นอย่างอื่นก็ได้แล้วแต่ความชอบของแต่ละท่าน)

ในกรณีที่จอ ไม่สามารถแสดงผลตามที่ตั้งไว้ได้ บางครั้งอาจจะทำให้มองอะไรไม่เห็น หรือไม่รู้เรื่องเลย เมื่อทำการเปลี่ยนแปลงขนาดของหน้าจอ ให้รอ 15 วินาทีโดยไม่ต้องทำอะไร Windows จะตั้งค่ากลับมาเหมือนเดิม ซึ่งจะพบได้ในการใช้จอรุ่นเก่า ๆ และนำมาใช้กับการ์ดจอที่สามารถตั้งได้ละเอียดกว่า
Driver ของอุปกรณ์อื่น ๆ
สำหรับ Driver ของอุปกรณ์อื่น ๆ ในที่นี้ ขออธิบายแนวทางคร่าว ๆ ในการลง Driver ของอุปกรณ์ต่าง ๆ เริ่มจากกดที่ Mycomputer และเลือกที่ Control Panel และกดเลือกที่ Add New Hardware

จะได้เมนู Add New Hardware Wizard กด Next

ตรงนี้ หากเป็นเครื่องที่ Windows ไม่รู้จักอุปกรณ์ที่มีอยู่จะขึ้นรายการมาให้เลือก Update Driver ถ้าเป็นเช่นนั้นให้ทำการUpdate Driver จนครบหรือจนกระทั่งไม่มีรายการอยู่ใน List นั้น ๆ ขั้นตอนการ Update Driver ก็ทำแบบเดียวกับการลงDriver ของการ์ดจอ แทบจะเรียกได้ว่าขั้นตอนการทำเหมือนกันเกือบทุกอย่าง แตกต่างกันก็เพียงแค่ Folder ที่จัดเก็บ Driverเท่านั้น
การตรวจสอบว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ทำงานได้ถูกต้องหรือไม่
ขั้นตอนสุดท้ายคือตรวจสอบว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ทำงานได้ถูกต้องคือให้เลือก Start >> Settings >> Control Panel

เลือก System เลือก Device Manager ดูว่ามีเครื่องหมายตกใจอยู่หน้าอุปกรณ์ใด ๆ หรือไม่

หากพบว่ามีเครื่องหมายตกใจอยู่หน้าอุปกรณ์ใด อาจจะแสดงว่ามีปัญหาของการลง Driver ผิดรุ่นหรือเกิดการไม่เข้ากันของระบบ หรือการชนกันของ IRQ แบบนี้ลองเข้าไปดูในรายละเอียดต่าง ๆ ก่อนอาจจะสามารถแก้ไขได้แต่ถ้าไม่สามารถแก้ไขได้ ก็คงต้องให้ผู้ชำนาญงานมาช่วยดูซะแล้ว ถ้าหากไม่มีเครื่องหมายตกใจอยู่เลยและเครื่องของคุณสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง มีเสียงครบ ก็น่าจะถือว่าคุณสอบผ่านการติดตั้ง Windows 98 แล้ว

ที่มา : http://www4.csc.ku.ac.th/~b5340204758/lean5.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น